หน้าแรก > ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด > ยกระดับดาราศาสตร์ไทย...“หอดูดาวแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ”
ยกระดับดาราศาสตร์ไทย...“หอดูดาวแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ” 23 มกราคม 2556

ยกระดับดาราศาสตร์ไทย...“หอดูดาวแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ”
วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม 2556 เวลา 00:00 น.

ณ บริเวณกิโลเมตรที่ 44.4 ก่อนถึงยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,478.5 เมตร
ด้วยสภาพท้องฟ้า ภูมิอากาศ และทัศนวิสัยในยามค่ำคืน ที่ปราศจากมลพิษทางอากาศและแสงรบกวนจากชุมชน และนักท่องเที่ยว
ที่นี่… จึงกลายเป็นสถานที่จัดตั้ง “หอดูดาวแห่งชาติ” ซึ่งได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “หอดูดาวแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ 7
รอบพระชนมพรรษา”และพร้อมที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 22 มกราคมนี้ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯทรง
เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงาน

“รองศาสตราจารย์บุญรักษา สุนทรธรรม” ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. บอกว่า เป็นความภาคภูมิใจของ
คนไทยทุกคน ที่ไทยจะมีหอดูดาวขนาดใหญ่รองรับงานวิจัยระดับโลก โดยสามารถใช้เป็นที่วิจัยสังเกตดวงดาวและปรากฏการณ์บนท้องฟ้าได้มากกว่า 200
คืนต่อปี ที่โดดเด่นกว่าหอดูดาวอื่น ๆ  เพราะปัจจุบันมีหอดูดาวไม่กี่แห่งในโลกที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งเป็นจุดสังเกตการณ์ทั้งซีกฟ้าเหนือและซีกฟ้าใต้
ได้ตลอดทั้งปี…และที่สำคัญหอดูดาวแห่งนี้  ได้มีการติดตั้งกล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.4 เมตร ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ …

“ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา” รองผู้อำนวยการ สดร. บอกว่า ตัวกล้องเป็นระบบอัลตะซิมุท สามารถเล็งและติดตามวัตถุบนท้องฟ้าได้อย่างแม่นยำ ติดตั้ง
พร้อมระบบโดมไฟเบอร์กลาส  หมุนได้ 360 องศา ทั้งหมดทำงานอัตโนมัติ ควบคุมด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากระยะไกล ซึ่งปกติจะติดตั้งอยู่ที่ชั้น 1
ของอาคารหอดูดาว และรองรับการสั่งงานผ่านอินเทอร์เน็ต เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบการทำงานกล้องรวมถึงใช้กล้องบันทึกข้อมูลวัตถุบนท้องฟ้าได้
จากทุกที่ทั่วโลก

จากเครื่องมือประสิทธิภาพสูงนี้ ทำให้หอดูดาวฯ สามารถรองรับงานวิจัยสำคัญ เช่น การค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ การศึกษาลักษณะและ
วิวัฒนาการของดาวคู่แบบใกล้ชิด การศึกษาการระเบิดของดาวฤกษ์ รวมถึงการระเบิดของกาแล็กซี่

ซึ่งปัจจุบันมีความ ร่วมมือในการวิจัยทั้งในและต่างประเทศ และเปิดให้บริการทางวิชาการแก่โรงเรียน ชุมชน และประชาชนทั่วไปที่สนใจเฝ้าศึกษา
ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์หอดูดาวแห่งนี้ จึงถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาด้านดาราศาสตร์ของไทย ที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด และผลักดันให้ไทย
เป็นผู้นำด้านดาราศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  รวมถึงก้าวสู่การยืนแถวหน้าในระดับโลกได้อย่างไม่ยาก.

นาตยา  คชินทร
nattayap.k@dailynews.co.th

ขอขอบคุณ
ที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
http://www.dailynews.co.th/technology/178606


ย้อนกลับ