หน้าแรก > ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด > ผ้าไหมปักธงชัย คึกคักรับมติครม.
ผ้าไหมปักธงชัย คึกคักรับมติครม. 16 เมษายน 2556

วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 ปีที่ 23 ฉบับที่ 8169 ข่าวสดรายวัน

คึกคักขึ้นมาทันตาหลังจากที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกนโยบายรณรงค์ให้คณะรัฐมนตรีและส่วนราชการ หันมาสวมใส่เสื้อผ้าที่ผลิตจากผ้าไทยในท้องถิ่น

ผ้าทอลายผ้าขาวม้าปักธงชัย เป็นหนึ่งในผ้าไทยที่คณะรัฐมนตรีจะนำมาตัดชุดไทยสวมใส่ ส่งผลให้ตลาดผ้าไหมในจังหวัดนครราชสีมากลับมาได้รับความนิยม โดยเฉพาะร้านมัชชาดาไหมไทย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา แหล่งผลิตผ้าไหมโดยกลุ่มแม่บ้านที่ขึ้นชื่อมากที่สุดของจังหวัด โดยมีหน่วยงานราชการมาสั่งผ้าไหมและผ้าฝ้ายไปตัดชุดทีมใส่ทำงานกันมากมาย

น.ส.นิรมล แสงทอง หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์นคร ราชสีมา เปิดเผยว่าโดยปกติจังหวัดนครราชสีมาส่งเสริมให้ข้าราชการสวมใส่ชุดผ้าไหมหางกระรอก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นโคราชอยู่แล้วทุกวันศุกร์ แต่ภายหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ข้าราชการสวมใส่ชุดที่ผลิตจากผ้าไทย ตนก็พร้อมรับนโยบายและนำเงินสวัสดิการส่วนหนึ่งมาสั่งผ้าไหมในร้านแห่งนี้ไปตัดชุดให้เจ้าหน้าที่ในสำนักงานจำนวนกว่า 70 คน สวมใส่ในวันทำงานราชการ

"การที่รัฐบาลออกมาส่งเสริมใช้ผ้าไทยถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะนอกจากจะส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศแล้ว ยังรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้ชาวต่างชาติชื่นชมในความสวยงามของผ้าไทย"

ด้าน นางอาทิตยา สิริมัชชาดากุล เจ้าของร้านมัชชาดาไหมไทย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ในฐานะนายกสมาคมไหมไทยนครราชสีมา และประธานกลุ่มไหมทอมือปักธงชัย เปิดเผยว่าปัจจุบันทางกลุ่มผู้ผลิตผ้าไหมในจังหวัดนครราชสีมารวมตัวกันกว่า 100 กลุ่ม และพัฒนาลวดลายใหม่ๆ ให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มไหมทอมือ อ.ปักธงชัย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 กลุ่ม ได้ตั้งร้านมัชชาดาไหมไทยจำหน่ายผ้าไหมหลายรูปแบบ

รูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ผ้าไหมหางกระรอก ซึ่งมีลายในเนื้อผ้าเป็นเส้นฝอยฟูเหมือนขนอ่อนๆ คล้ายหางกระรอก โดยจะมีเส้นไหม 2 สี เป็นสีของไหม 2 เส้นควบกันลูกลายใช้ทอเป็นเส้นพุ่งอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของผ้าไหมจังหวัดนครราชสีมา

รองลงมาจะเป็นผ้าลายพื้นที่มีลักษณะมันวาว สีสดใส สามารถผลิตได้จำนวนมาก เหมาะกับการนำไปตัดเป็นชุดเสื้อผ้าที่ทันสมัย และสุดท้ายคือผ้าไหมลายผ้าขาวม้าหรือลายหมากรุก ซึ่งราคาในปัจจุบันไม่แพงเหมือนในอดีต นำมาตัดเป็นเสื้อคอปก และเสื้อคอพระราชทาน ราคาจะอยู่ที่ตัวละ 1,000 - 2,500 บาท

แต่ถ้าบางคนต้องการซื้อผ้าไหมไปตัดชุดเอง ก็จะซื้อเป็นหลา หลาละ 300 - 1,000 บาท แต่หากจะตัดเป็นทั้งเสื้อและกระโปรงก็จะซื้อครั้งเดียว 4 หลา ราคาก็จะต่ำลงอีก ปัจจุบันมีหน่วยงานราชการและเอกชนมาสั่งซื้อกันเป็นจำนวนมาก

นางอาทิตยากล่าวอีกว่า ยอดจำหน่ายผ้าไหมเฉพาะในกลุ่มไหมทอมือปักธงชัยในปี 2555 มียอดจำหน่ายกว่า 4 พันล้านบาท ร้อยละ 80 จะเป็นลูกค้าในประเทศ อีกร้อยละ 20 มีออร์เดอร์สั่งจากต่างประเทศ คาดว่าหลังจากรัฐบาลประกาศออกเป็นนโยบายส่งเสริมอย่างจริงจังจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นถึงปีละ 8 พันล้านบาท

"ผ้าทอลายผ้าขาวม้าตามที่ภาครัฐสื่อความหมายบ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของคนอีสาน เอกลักษณ์ของการทอผ้าไหมเมืองปักธงชัยคือผ้าทอลายหางกระรอก จึงอยากให้ภาครัฐตระหนักและเล็งเห็นความเป็นเอกลักษณ์ ส่งเสริมให้ใช้ผ้าทอหางกระรอกด้วย หากนำผ้าทอลายหางกระรอกเป็นพื้นแล้วใช้ลายผ้าขาวม้าหรือลายรูปช่องสี่เหลี่ยม (ลายสกอต) ควบคู่กัน จะช่วยเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์" นางอาทิตยากล่าว

นอกจากนี้ นายกสมาคมไหมไทยนครราช สีมานำสื่อมวลชนชมกระบวนการผลิตและทอผ้าไหมอย่างครบวงจร พร้อมเปิดเผยอีกว่าปัจจุบันในเขตอำเภอปักธงชัยมีผู้ประกอบการทอผ้าไหมไทยครบวงจร ซึ่งมีศักยภาพทอผ้าไหมอย่างมีคุณภาพกว่า 100 ราย ในแต่ละหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอปักธงชัยยังมีผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นทอผ้าไหมอีกนับพันครัวเรือน กำลังการผลิตน่าจะตอบสนองความต้องการได้อย่างเพียงพอ หากสั่งผลิตในปริมาณมาก

วัตถุดิบเส้นไหมนั้นรับซื้อจากพื้นที่ใกล้เคียงที่เพาะเลี้ยงไหม ก่อให้เกิดอาชีพและ รายได้ให้ท้องถิ่น ถือเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นที่มีความโดดเด่นของคุณภาพผ้าไหม กระบวน การผลิตทุกขั้นตอนใช้ฝีมือมนุษย์ทั้งสิ้น ไม่ใช้เครื่องจักรกลแต่อย่างใด ผ้าทอไหมเมืองปักธงชัยแท้จริงคือ "ผ้าทอไหมลายหางกระ รอก" เป็นผ้าพื้นที่มีลักษณะพิเศษ เรียกชื่อตามผิวสัมผัส เพราะลายที่ปรากฏบนเนื้อผ้าเป็นเส้นฝอยฟู มองดูเหมือนขนอ่อนๆ เหลือบระยับ คล้ายกับขนของหางกระรอกแลดูสวยงาม แปลกตา นอกจากนี้ยังมีความละเอียดอ่อนในคุณภาพเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีอีกด้วย

ผู้สวมใส่สบายกายและยังสร้างรายได้ให้คนทอผ้า นโยบายนี้เรียกได้ว่าวินวิน กันทุกฝ่าย

ขอขอบคุณ
ที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROc1lXUXdNVEV4TURRMU5nPT0=


ย้อนกลับ